วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ขนมอินเดีย

ร้าน Royal India Restaurant


                                      การชิมอาหารในครั้งนี้มี  3 อย่าง
                                      1.  กุหลาบยาร์มูร์
                                      2.  ลาดู
                                      3.  จั่มจั๊ม




       กุหลาบยาร์มูร์ หรือกุหลาบจามูร์ รู้จักขนมนี้จากอาจารย์ เลยอยากลองทานดู แบบจำได้ฝังใจว่ามันหวานสุดยอดและเหม็นนมมากกกกกก เพราะว่าเอานมไปปั่นจนได้หัวนม แล้วไปทำต่อในน้ำเชื่อม
แต่วันนี้กินแล้สรู้สึกดีกว่าอันอื่น ไม่หวานเท่าไหร่ และไม่เหม็นนมมาก อร่อยดี อุๆๆ










ขายขนมลาดู ขนมบูชาพระพิฆคเณศ
ดับเิบิ้ลคลิ๊กเพื่อปิดหน้าต่างนี้ หรือ คลิ๊กที่ปุ่มปิดด้านบน







          ขายขายขนมลาดู ขนมบูชาพระพิฆคเณศ ซึ่งผู้ที่บูชาพระองค์ด้วยขนมลาดูนี้ ผู้นั้นจะได้รับการประทานพรให้สำเร็จตามที่ปราถนา เหมือนกับการที่เราถวายของสังเวยที่พระองค์โปรดปรานนั่นเอง
ขนมลาดู ของ Close2Flower เป็นขนมสูตรโบราณ ทำจากสูตรอินเดียที่ตกทอดกันมากว่าพันปี แต่รสชาติไม่ได้เป็นอินเดี๋ยจ๋า หากไปตั้งรวมกันกับขนมไทยแล้ว ทั้งรูป รส กลิ่น รับรองว่าแยกไม่ออกว่าเป็นขนมอินเดีย


 

          มันชื่อขนมจั่มจั๊ม





       มาพูดถึงรสชาดกันดีกว่า

       อันนี้เหมือนกินฟองน้ำที่ชุ่มไปด้วยน้ำเชื่อมเลย รสชาดไม่เหมือนทองหยอดอ่ะ แบบทองหยอดหวานคนละแบบ เวลากัดไปน้ำเชื่อมหวานเจี๊ยบพุ่งก ระฉูด แถมท้ายด้วยกลิ่นนม ด้วยเล็กน้อย อ้วนสุดยอด

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

      บทความส่งออกรถยนต์พุ่งกว่า 135%


                                            

เดือนพฤษภาคม ส่งออกรถยนต์พุ่งกว่า 135 % ชี้ต่างประเทศกลับมานำเข้ารถเมดอินไทยแลนด์แล้ว ทำให้ 5 เดือนแรก โกยเงินนอกเกือบ 2.3 แสนล้านบาทแล้ว ส.อ.ท.ประมาณแผนการผลิตมิ.ย.-ส.ค.มากกว่าปีก่อน 60 %


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2553 ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป จำนวนทั้งสิ้น 75,075 คัน เพิ่มขึ้น 135.25 % เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมากกว่าเดือนเมษายน 31.39 % เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นในทุกตลาด โดยมีมูลค่าการส่งออก 3,264.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.07 %เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกเครื่องยนต์ มูลค่าการส่งออก 1,392.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.93 % ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 11,777.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.78 % อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 1,284.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.14 %รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤษภาคม มีมูลค่า 49,781.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.52 %


เมื่อรวมการส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2553 พบว่า มีการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวม 348,899 คัน โดยส่งออกเพิ่มขึ้น 74.99 % มีมูลค่าการส่งออก 163,885.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.48 % เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 7,058.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.88 %ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 52,725.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.78 % อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 5,491.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7 % รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ระหว่างเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2553 มีมูลค่า 229,160.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.67 %


ส่วนรถจักรยานยนต์ ในเดือนพฤษภาคม 2553 มีจำนวนส่งออก 73,371 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมของปีที่ผ่านมา 73.35 %และมากกว่าเดือนเมษายน 51.05 % โดยมีมูลค่า 1,973.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา 26.4 % ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,243.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.68 %อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 46.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.8 % รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่ารวม 3,264.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.07 %


เมื่อรวมการส่งออกระหว่างเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2553 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 290,380 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้น 38.21 % โดยมีมูลค่า 8,824 ล้านบาท ลดลง 3.31 %


ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 5,367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.23 % อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.14 % รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2553 มีมูลค่าทั้งสิ้น 14,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.99 %


โดยสรุปแล้ว ระหว่างเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2553 ไทยมีการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 243,565.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.46 %


นายสุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ส.อ.ท.ประมาณการผลิตรถยนต์ในเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2553 มีจำนวน 373,088 คัน ลดลง 3.95 % เมื่อเปรียบเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553 ซึ่งมีจำนวน 388,418 คัน และเพิ่มขึ้น 59.53 % เมื่อเปรียบเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2552 ซึ่งมีจำนวน 233,870 คัน
ประมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ในเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2553 มีจำนวน 464,024 คัน ลดลง 1.23 % เมื่อเปรียบเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2553 ซึ่งมีจำนวน 469,798 คัน


แต่เพิ่มขึ้น 16.96 % เมื่อเปรียบเทียบกับยอดผลิตจริงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2552 ซึ่งมีจำนวน 396,747 คัน


วิเคราะห์   SWOT


จุดแข็ง
1.มีผู้บริหารและทีมงานที่มีความสามารถ
2.มีทำเลที่ตั้งดี
3.น่าเชื่อถือ
4.มียอดขายที่ดี


จุดอ่อน
1.ไทยไม่มีเทคโนโลยีของตัวเอง
2.ไทยไม่มีวัตถุดิบหรือเครื่องจักรของตัวเอง
3.การติดตามลูกค้าทำได้ไม่ทั่วถึง
4.การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ไม่ดีเท่าที่ควร


โอกาส
1.ยอดขายรถยนต์โดยรวมเติบโตมากขึ้น
2.สไตล์การใช้ชีวิตของคนรักความสะดวกสบายมากขึ้น
3.ปัจจุบันผู้บริโภคต่างประเทศสนใจด้านการบริการมากขึ้น
4.การเปิดตัวแทนส่งออกใหม่ทำได้ยากมากขึ้น


อุปสรรค
1.ภาวะที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
2.การแข่งขันทางการตลาดสูง
3.การให้บิการของผู้ให้บริการอิสระ
4.การแข่งมีศูนย์บริการในบริเวณใกล้


อ้างอิง  http://www.thannews.th.com/images/stories/article2010/2541/3601.jpg
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม... (http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=33626:-135-&catid=134:than-auto-&Itemid=452)
http://www.thannews.th.com/plugins/content/mavikthumbnails/thumbnails/200x154-images-stories-article2010-2541-3601.jpg (http://www.thannews.th.com/images/stories/article2010/2541/3601.jpg)

วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ประเทศฮอลแลนด์

ประชากร
ประเทศเนเธอร์แลนด์มีประชากร 16,105,285 คน (ปี 2544) โดยมีอัตราความหนาแน่น 395 คนต่อ ตร. กม. นับได้ว่าอยู่อันดับที่ 23 ของโลก นอกจากนั้นยังเป็นประเทศที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5[1] และยังเป็นประเทศที่มีอัตราความสูงของผู้อยู่อาศัยสูงที่สุดในโลก โดยผู้ชายมีความสูง 1.81 เมตร และผู้หญิงสูง 1.68 เมตรอีกด้วย [2]
ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีประชาชนหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่อาศัย ดังนี้
ที่เชื้อชาติจำนวน (ร้อยละ)
1.ดัตช์80.8
2.เยอรมัน2.4
3.อินโดนีเซีย2.4
4.เติร์ก2.2
5.ชาวซูรินาเม2
6.โมร็อกโก1.9
7.อินเดีย1.5
8.ชาวแอนทิลลิส และ ชาวอารูบา0.8
9.อื่นๆ6


นอกจากนั้นยังมีผู้อาศัยที่มีเชื้อผสมระหว่างอินโดนีเซียและเนเธอร์แลนด์อีกกว่า 8 แสนคน

อ้างอิง
  1. ^ Top 35 countries with the highest internet penetration rate. InternetWorldStats.com. สืบค้นวันที่ 2007-06-20
  2. ^ Reported health and lifestyle. Centraal Bureau voor de Statistiek. สืบค้นวันที่ 2007-08-28

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความแตกต่างระหว่างการตลาดระหว่างประเทศกับการค้าระหว่างประเทศ

การตลาดระหว่างประเทศ  
Domestic Marketing คือ ระยะที่ธุรกิจดำเนินการทางการตลาดภายในประเทศ  ระยะนี้ ถือเป็นระยะเริ่มแรกในการทำธุรกิจ โดยธุรกิจจะเริ่มจากการทำการตลาดภายในประเทศ โดยจะมีการศึกษาตลาด หาข้อมูลทางการตลาด จากข้อมูลภายในประเทศเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางกลยุทธ์ และ การวางแผนในการทำธุรกิจระยะนี้ ถือเป็นระยะเริ่มแรกในการทำธุรกิจ โดยธุรกิจจะเริ่มจากการทำการตลาดภายในประเทศ โดยจะมีการศึกษาตลาด หาข้อมูลทางการตลาด จากข้อมูลภายในประเทศเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางกลยุทธ์ และ การวางแผนในการทำธุรกิจ

การค้าระหว่างประเทศคือ การส่งสินค้าของประเทศหนึ่งผ่านพรมแดนไปขายให้ประเทศอื่นๆที่ต้องการสินค้าของประเทศนั้น เรียกการค้าในส่วนนี้ว่า"การส่งออก"อีกด้านของการค้าระหว่างประเทศ ก็คือ การซื้อสินค้าจากประเทศอื่นๆผ่านเขตแดนเข้าในประเทศ เรียกการค้าในส่วนนี้ว่า"การนำเข้า"

อ้างอิง   http://blog.spu.ac.th/print.php?id=3380